เพิ่มความสะดวกสบายจากการเดินทางในรถยนต์ส่วนตัว ด้วย 11 อุปกรณ์เสริมในรถยนต์ ที่ช่วยให้เราสามารถขับขี่ได้สบายและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่ต้องขับรถทางไกล หรือใช้ชีวิตอยู่ในรถคราวละหลาย ๆ ชั่วโมง
1. กล้องติดหน้ารถ
ทุกวันนี้เราทุกคนต้องติดกล้องหน้ารถเพื่อความปลอดภัย เพราะเราสามารถใช้กล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานในตอนที่เกิดอุบัติเหตุ หรือว่าเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ ในยามที่เราไม่อยู่ที่รถ แล้วมีคนมาขโมยของที่รถ จะช่วยเป็นหลักฐานในการจับคนร้ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การติดกล้องหน้ารถจะช่วยป้องปรามการโจรกรรมทรัพย์สิน และยังช่วยลดเงินค่าประกันรถยนต์ได้อีกด้วย จึงเป็นอุปกรณ์ในรถที่เราควรมีติดไว้
2. ที่วางมือถือ
สำหรับรถที่ไม่มีหน้าจอ LCD ที่รถ หรือต้องการเพิ่มความปลอดภัยระหว่างการขับขี่ แนะนำให้ซื้อที่วางโทรศัพท์มือถือ เพราะนอกจากจะไม่พลาดทุกการติดต่อแล้ว ยังสามารถเปิด Google Map ดูเส้นทางได้ โดยเราไม่ต้องถือเองไว้ตลอดเวลา หรือวางหน้าคอนโซลรถ ซึ่งอาจจะทำให้โทรศัพท์ตกระหว่างการขับขี่ได้อีกด้วย
ปัจจุบันที่วางโทรศัพท์มีหลากหลายแบบ ทั้งแบบหนีบและแบบแม่เหล็ก อย่างไรก็ตามควรจะเลือกที่พอดีกับโทรศัพท์และติดแน่น ไม่ทำให้โทรศัพท์ตกลงมา
3. อุปกรณ์ชาร์จไฟ
หากว่าเราต้องเดินทางเป็นระยะทางไกล ๆ สิ่งหนึ่งที่อาจจะเกิดขึ้นคือ แบตโทรศัพท์หมด เพราะระหว่างเดินทางเราอาจจะใช้โทรศัพท์ในการเปิดเพลง เปิด Google Map เราจึงควรมีที่ชาร์จไฟเป็นอุปกรณ์เสริมในรถยนต์ที่ควรมีติดไว้ตลอดเวลา
4. อุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะ
ไม่ต้องห่วงเรื่องรถหาย โดนขโมย หรือหาไม่เจอ ด้วยการติดอุปกรณ์ติดตามอัจฉริยะในรถ อย่างเช่น GPS Tracker, Apple Airtag, Samsung Galaxy SmartTag ที่ทำให้เราสามารถติดตามหรือระบุตำแหน่งของรถได้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่ว่าจะในกรณีรถหาย หรือจำที่จอดรถไม่ได้ก็ตาม
นอกจากนี้ เรายังสามารถติด Tag กับกุญแจรถได้อีกด้วย จะได้หมดปัญหาเรื่องหากุญแจรถไม่เจอ เหมาะสำหรับคนขี้ลืมเป็นอย่างยิ่ง
5. เครื่องกรองอากาศในรถ
ปัญหาเรื่องมลพิษและฝุ่นควันเป็นหนึ่งในปัญหาหลัก โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวที่ฝุ่นหนาแน่นเป็นพิเศษ ซึ่งส่งผลต่อคนที่เป็นภูมิแพ้ หรือคนที่ต้องเดินทางเข้าเมืองหรือเขตที่มีฝุ่นละอองจำนวนมาก เครื่องกรองอากาศในรถจึงเป็นหนึ่งในโซลูชันที่ช่วยกรองอากาศ ลดปริมาณฝุ่นละออง และช่วยทำให้เราได้หายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไประหว่างที่อยู่ในรถได้ทุกการเดินทาง
6. เครื่องทำความชื้นในรถยนต์
เครื่องทำความชื้น หนึ่งในอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องอยู่ในห้องแอร์นาน ๆ เป็นประจำ ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิ และดูแลไม่ให้อากาศแห้งจนเกินไปนัก สำหรับคนที่ต้องขับขี่รถยนต์เป็นเวลานาน การติดตั้งเครื่องทำความชื้นในรถ ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดอาการไอ
อย่างไรก็ตาม ให้เราระวังอย่าให้มีความชื้นเพิ่มมากขึ้นไป แนะนำอยู่ที่ 40%-60 % เพราะอาจจะส่งผลต่อสุขภาพได้ด้วยเช่นเดียวกัน
7. หมอนรองขับรถ
เวลาขับรถเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เราปวดหลังได้ โดยเฉพาะเวลาที่รถติดอยู่กลางถนนเป็นเวลานาน ไม่สามารถหยุดรถหรือลงมายืดเส้นยืดสายได้ การใช้หมอนรองขับรถจะช่วยลดอาการปวดหลัง กระจายน้ำหนัก คลายความเมื่อยล้า และช่วยพยุงหลัง นอกจากนี้ยังช่วยปรับท่าทางการนั่งให้ถูกต้อง
8. ที่กันของหล่นข้างเบาะหรือที่เก็บของข้างเบาะรถ
หลายคนคงจะมีปัญหาของหล่นไปข้างเบาะ เก็บไม่ได้ ให้ลองใช้ที่กันของหล่นข้างเบาะหรือที่เก็บของข้างเบาะรถ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันของไม่ให้หล่นลงไปแล้ว ยังสามารถใช้เก็บของที่เราใช้ประจำได้อีกด้วย จึงเป็นอุปกรณ์ในรถอีกอย่างที่แนะนำให้มีติดเอาไว้
9. ที่แขวนของด้านหลัง สามารถแขวนถุงชอปปิงได้
สำหรับขาชอปที่ชอบซื้อของบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นของในซูเปอร์มาร์เก็ต ของกิน หรือของชอป จะต้องมีที่แขวนของด้านหลังรถ ที่สามารถแขวนถุงชอปปิงได้ ทำให้ถุงชอปปิงไม่กลิ้งหรือว่าตกลงกับพื้นรถ ทำให้ข้าวของเสียหาย นอกจากจะแขวนถุงชอปปิงแล้ว เรายังสามารถแขวนถุงขยะได้ด้วย
10. Car seat สำหรับเด็กหรือสัตว์เลี้ยง เพื่อความปลอดภัย
อุปกรณ์เสริมในรถยนต์สำหรับคนที่มีเด็กหรือสัตว์เลี้ยง คือ Car Seat ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย และสร้างวินัยให้แก่เด็ก เวลาที่เกิดอุบัติเหตุ เด็กจะได้ไม่บาดเจ็บหนัก หรือหัวกระแทกคอนโซล นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มสมาธิให้แก่คนขับ ไม่จำเป็นต้องพะวงว่าเด็ก ๆ หรือสัตว์เลี้ยงจะปีนป่าย หรืออยู่ในที่ที่ไม่ปลอดภัย
11. ถังขยะ สำหรับใส่ขยะเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างที่อยู่บนรถ
สำหรับอุปกรณ์ในรถอย่างสุดท้ายที่แนะนำให้มีติดรถ คือ ถังขยะ เพราะเวลาที่เรากินอาหาร หรือถ้ามีขยะเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็สามารถทิ้งได้เลย จะได้เป็นระเบียบ และเก็บทิ้งง่าย โดยเฉพาะเวลาที่เราเดินทางไกล การมีขยะในรถก็จะช่วยในเรื่องของความสะอาดอีกด้วย
เพิ่มความปลอดภัยและอุ่นใจอีกขั้นให้กับทุกการขับขี่ ด้วยการทำประกันภัย 2+ กับ SOMPO ตามใจ ประกันรถยนต์ราคาประหยัด เลือกได้ตามใจคุณ พร้อมดูแลทุกปัญหาอย่างครบถ้วน มีศูนย์ซ่อมบริการทั่วไทยกว่า 1,200 แห่ง พร้อมติดตามสถานะการเคลมให้คุณรับทราบผ่าน SMS ในทุกๆ ขั้นตอนการเคลม
บทความอื่นๆจากซมโปะ
