รู้หรือไม่ “เมาแล้วขับ” มีโทษร้ายแรง ทั้งจำ ทั้งปรับ แถมประกันไม่จ่าย ไม่ว่าจะมีทุนประกันสูงแค่ไหนก็ตาม เพราะพฤติกรรมดังกล่าวเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งของตนเองและผู้อื่น อาจจะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตได้ ซึ่งในปี 2567 นี้ กฎหมายเมาแล้วขับมีโทษอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
แค่ไหนถึงเรียกว่าเมา
เราคงจะเคยถามเพื่อน ๆ ว่า “เมาไหม ขับไหวเปล่า ?” แล้วเพื่อนบอกว่า “ไม่เมา ๆ” แต่เมาของคนเราไม่เท่ากัน กฎหมายจึงได้มีการบัญญัติเอาไว้อย่างละเอียด ซึ่งตามกฎหมายจะวัดความเมาหรือไม่เมาจากปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด ดังนี้
- บุคคลทั่วไป เกิน 50 มิลลิกรัม%
- ผู้ที่อายุน้อยกว่า 20 ปี หรือมีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว 20 มิลลิกรัม%
- ผู้ที่ปฏิเสธการตรวจวัดแอลกอฮอล์ ถือว่าเมาแล้วขับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัม% แล้ว เนื่องจากเราไม่มีเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์เหมือนกับของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จริงแล้ว ร่างกายของแต่ละคนมีความสามารถในการดูดซับแอลกอฮอล์และขับออกจากร่างกายที่แตกต่างกัน ทางที่ดีแนะนำให้ ดื่มแล้วไม่ขับเลยจะดีกว่าเพื่อความปลอดภัย เพราะแม้ว่าหลายเว็บไซต์จะแสดงตัวเลขของปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ก็เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ของเหล้าแต่ละประเภทก็ไม่เท่ากัน การผสมของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
โทษการเมาแล้วขับรถ
ปัจจุบันมีการอัปเดตกฎหมายและโทษของการเมาแล้วขับให้มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อลดอุบัติเหตุและความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยทางกฎหมายได้เล็งเห็นว่า การเมาแล้วขับเป็นสิ่งที่เล็งเห็นผลซึ่งทำให้ตนเองและผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ โดยมีโทษดังต่อไปนี้
- ทำผิดครั้งแรก โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท
- ทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี นับแต่กระทำผิดครั้งแรก จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท พร้อมถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
- ทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จำคุกสูงสุด 10 ปี ปรับ 200,000 บาท พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
- ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมาแล้วขับ ประกันคุ้มครองไหม ?
สิ่งหนึ่งที่ผู้ขับขี่และเจ้าของรถยนต์ต้องทราบก็คือ ถ้าถูกจับในข้อหาเมาแล้วขับ หรือแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัม% ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจจะไม่คุ้มครองผู้เอาประกัน ไม่ว่าจะซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือว่ามีทุนประกันสูงแค่ไหนก็ตาม
สำหรับความคุ้มครองตาม พ.ร.บ.รถยนต์ จะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล แต่ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ โดยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน หากเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคน
นั่นแปลว่า หากว่าเมาแล้วขับ เกิดอุบัติเหตุขึ้น ความคุ้มครองเกี่ยวกับความเสียหายของตัวรถ ผู้เอาประกันจะต้องออกเงินค่าซ่อมแซมความเสียหายด้วยตัวเอง
เมาแล้วไม่อยากขับ ต้องกลับอย่างไร ?
หลายคนอาจจะคิดว่า ถ้าไปเที่ยว เมา แล้วเราจะกลับอย่างไร ? ถ้าไม่ขับรถ
กลับรถเพื่อน
ให้กลับกับเพื่อนที่ไม่ดื่ม หรือให้คนอื่นที่ไม่เมามารับหรือขับรถกลับ ลองดูว่ากลุ่มเพื่อนที่ไปปาร์ตี้หรือเที่ยวด้วยกันวันนี้ มีใครไม่เน้น “ดื่ม” แต่เน้นบรรยากาศบ้างไหม ลองถามหรือตกลงให้ไปส่งที่บ้าน หรือกลับบ้านพร้อมกันเพื่อความปลอดภัย หากไม่มีอาจจะวางแผนไปดื่มในบ้านพัก หรือบ้านเพื่อนที่สามารถนอนค้างได้เพื่อความปลอดภัย
กลับแท็กซี่ หรือเรียกรถจากแอป
ในกรณีที่คิดว่าอยากดื่มอยากดริงก์ ต้องเมาแน่ ๆ แนะนำให้จอดรถไว้ที่บ้าน แล้วเรียกรถแท็กซี่ หรือเรียกรถจากแอปพลิเคชันให้พากลับบ้านแทน
จ้างคนขับรถจากแอปพลิเคชัน
สำหรับคนที่ไม่ได้วางแผนมาก่อนว่าจะมาดื่มหรือมาเมา แต่บรรยากาศพาไป จะทิ้งรถไว้ก็เกรงว่าจะหาย ลองใช้บริการจ้างคนขับรถผ่านแอปพลิเคชัน รับรองว่าปลอดภัย หายห่วง ดื่มได้แบบไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุหรือโดนจับ
นอนโรงแรมหรือบ้านเพื่อน
ถ้าเล็งเห็นแล้วว่า ทั้งกลุ่มขับรถกลับไม่ได้อย่างแน่นอน ลองมองหาที่พักใกล้ ๆ อย่างโรงแรม หรือว่าบ้านเพื่อนในกลุ่ม พอตื่นขึ้นมาหายเมาจะได้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย
เมาแล้วขับ ไม่ใช่แค่โดนปรับ อย่าเสี่ยง !
เมาแล้วขับ เสี่ยงอันตรายต่ออุบัติเหตุ ทางที่ดี ถ้าไปปาร์ตี้หรือว่าดื่ม ไม่ควรขับ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ แม้แต่ประกันชั้น 1 ก็ไม่รับเคลม และหากต้องการซื้อประกันชั้น 1 ที่คุ้มค่า แนะนำ SOMPO ตามใจ คุ้มครองรอบด้าน ทั้งตัวและรถยนต์ของผู้เอาประกัน และคู่กรณี ผู้เอาประกันสามารถเลือกความคุ้มครองได้ทั้งรายปีและรายเดือน ไม่ผูกมัด จ่ายเบี้ยเป็นรายเดือนเบา ๆ ได้รับความคุ้มครองแบบจัดเต็ม ซื้อออนไลน์ได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- เมาแล้วขับ ผิดกฎหมาย อันตรายถึงชีวิตตนเอง และผู้อื่น. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2567 จาก https://latphrao.metro.police.go.th/
About The Author
บทความอื่นๆจากซมโปะ