หลาย ๆ คนมักเจอปัญหา รถสตาร์ทไม่ติด เนื่องจากแบตรถยนต์หมด และมักจะคิดว่าแบตหvมดอีกแล้วหรอ ? พึ่งเปลี่ยนแบตรถไปเองนะ ซึ่งการที่แบตเตอรี่เสื่อมเร็วมาก ๆ นั้นมีหลายปัจจัย วันนี้เราจะเล่าให้คุณฟังในบทความนี้ แต่ก่อนอื่นลองมาทำความรู้จักกับชนิดของ แบตเตอรี่รถยนต์กันก่อน

แบตเตอรี่รถยนต์คืออะไร

แบตเตอรี่ในรถยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งอยู่ในรถยนต์ทุกชนิด รวมไปถึงรถไฟฟ้า 100% ด้วย โดยแบตเตอร์รี่ มีหน้าที่ให้พลังงานเพื่อจ่ายไฟฟ้า ให้อุปกรณ์ในรถยนต์ ตั้งแต่ขั้นตอนการสตาร์ทรถ ไปถึงขณะขับรถอยู่ และรวมไปถึงการเปิดไฟหน้า หรือว่า เปิดระบบแอร์ จนถึงคุณดับเครื่องยนต์ลง และรถยนต์ก็ยังต้องการพลังงานไฟฟ้ามาเพื่อหล่อเลี้ยง ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ภายในรถยนต์และในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เยอะมากยิ่งขึ้น ทำให้แบตเตอรี่ในรถยนต์นั้นยิ่งสำคัญขึ้นไปอีก เพราะการที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยในรถยนต์ ยิ่งต้องการแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพเพื่อการจ่ายไฟไปหล่อเลี้ยงอุปกรณ์ในรถได้อย่างดีเยี่ยมเพราะฉะนั้น การดูแลแบตรถยนต์ ก็ยิ่งสำคัญไปอีก

แบตเตอรี่รถยนต์ จะสำคัญที่สุดคือตอนสตาร์ทรถ ซึ่งในแบตเตอรี่ทุก ๆ ตัวจะมีค่าวัดกำลังไฟตอนสตาร์ท ซึ่งจะเรียกว่า CCA (Cold Cranking Amps) คือ หน่วยการวัดความสามารถในการสตาร์ทเครื่องยนต์ในสภาวะอุณหภูมิต่ำ โดยยิ่งจะยิ่งสำคัญอย่างมากในเมืองที่มีอากาศหนาว และการวัดค่า CCA ก็จะมีมาตรฐานการวัดแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศหรือภูมิภาค โดยมาตรฐานในการวัดค่า CCA ของประเทศไทยคือ มาตรฐาน SAE (Society of Automotive Engineers) เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดยสมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา แต่มีข้อสังเกตว่า ค่า CCA ของแบตเตอรี่นั้นจะลดลงตามการใช้งาน ซึ่งการดูแลแบตเตอรี่ที่ถูกต้องนั้นจะช่วยยืดอายุของแบตรถยนต์ให้ใช้งานได้นานขึ้น

Tips : สามารถวัดค่า CCA ของแบตเตอรี่รถยนต์ได้ที่ศูนย์บริการรถยนต์ทั่วไปได้

ชนิดของแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ใช้ในลักษณะทั่วไป

แบตเตอรี่แบบน้ำกลั่น (Wet Cell Battery)  แบตเตอรี่น้ำ คือ แบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรดที่ใช้งานในรถยนต์ทั่วไป แบตเตอรี่ชนิดน้ำ ราคาของแบตรถยนต์ชนิดนี้ค่อนข้างจะมีราคาที่ถูก ซึ่งเหมาะกับคนที่ใช้งานรถยนต์เป็นประจำ และมีเวลาดูแลในการดูแลบำรุงรักษารถ เพราะแบตรถยนต์ชนิดนี้ ต้องคอยตรวจสอบ และเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา หากลืมเติมน้ำกลั่นจนน้ำกลั่นแห้ง จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมไวขึ้นทำให้ต้องเปลี่ยนแบตรถยนต์บ่อยขึ้น

แบตเตอรี่แบบแห้ง (Dry Cell Battery) แบตเตอรี่แบบแห้ง คือ แบตเตอรี่ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะเป็นแบตเตอรี่ที่ดูแลง่าย ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งจะเหมาะกับชีวิตชาวเมืองในปัจจุบัน ที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถยนต์มากสักเท่าไหร่ แต่ก็จะแลกมากับราคา แบตเตอรี่ที่ราคาสูงกว่าแบตรถยนต์ แบบน้ำ และกึ่งแห้ง

แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (MF Battery) แบตเตอรี่กึ่งแห้ง หรือ ที่เรียกว่า MF เป็นแบตเตอรี่ที่ดึงข้อดีจาก แบตชนิดน้ำ และ แบตชนิดแห้ง มารวมกันซึ่งแบตรถยนต์ชนิดนี้ ไม่จำเป็นต้องดูแลบ่อย เพียงแค่เติมน้ำกลั่นตามระยะที่ผู้ผลิตกำหนด ก็สามารถใช้งานได้นานกว่าแบตเตอรี่ชนิดน้ำ เฉลี่ยจะใช้งานได้สูงสุด 3 ปี

การดูแลแบตเตอรี่รถยนต์ง่าย ๆ คุณก็ทำได้

ตรวจเช็คทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ เพื่อป้องกับคราบขี้เกลือ
รู้ไหมว่าคราบขี้เกลือตรงขั้วแบตเตอรี่นั้นน่ากลัวแค่ไหน คราบขี้เกลือสีขาว ๆ ที่ติดอยู่ตรงขั้วแบตรถยนต์นั้น สามารถกัดกร่อนโลหะบนขั้วแบตเตอรี่ หรือขั้วของสายไฟได้ และ คราบขี้เกลือยังปิดกั้นกระแสไฟฟ้า ทำให้แบตเตอรี่จ่ายไฟได้ไม่สะดวก ทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้

ไม่ปล่อยให้น้ำกลั่นแห้ง และ คอยเช็กระดับน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ

แบตเตอรี่ชนิดน้ำ(Wet Cell Battery) และ ชนิดกึ่งแห้ง (MF Battery) จะต้องเติมน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรปล่อยให้น้ำกลั่นแห้ง โดยแบตเตอรี่ชนิดน้ำ จะต้องหมั่นเช็กอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง สำหรับ แบตเตอรี่ชนิดกึ่งแห้ง ควรเช็กระดับน้ำ 3-4 เดือน ต่อครั้ง

ตาแมว บนแบตเตอรี่ สามารถเช็กระดับของกำลังไฟได้

บนแบตเตอรี่แทบจะทุกชนิดจะมีตาแมวที่สามารถส่องดูสี ซึ่งสีที่ปรากฏบนตาแมวนั้นจะบ่งบอกถึงกำลังไฟที่เหลืออยู่ บนแบตรถยนต์ ได้ด้วย โดย ( สีน้ำเงิน=ไฟยังเต็มอยู่ สีส้มแดง=แบตเตอรี่ไฟเริ่มอ่อนควรชาร์ตไฟหรือเติมน้ำกลั่น สีขาว=เสื่อมสภาพ และ ควรจะต้องเปลี่ยนลูกใหม่ )

เท่านี้ แบตเตอรี่ในรถยนต์ของคุณก็จะมีอายุการใช้งานที่นานขึ้น ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนแบตรถยนต์บ่อยขึ้นทำให้ประหยัดเงินไปได้เยอะ แต่ถ้าหากรถเสียฉุกเฉินบนท้องถนนไม่ทันได้ตั้งตัว เรียกใช้บริการ Sompo Roadside Service จาก ประกันรถยนต์ Sompo ตามใจ ได้ทันทันที ไม่ว่าจะเป็น การให้คำปรึกษาผ่านทางโทรศัพท์ เพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ตลอด 24 ชั่วโมง ช่างซ่อมรถยนต์ฉุกเฉินเพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น* บริการเติมน้ำมันเมื่อน้ำมันหมดบนท้องถนน* ติดต่อ Sompo Roadside Service โทร 02-039-5780 ตลอด 24. ชั่วโมง *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด