เทคนิคดูรถมืองสองไม่ให้โดนหลอก

หลายๆคนมีความฝันอยากจะมีรถยนต์เป็นของตัวเอง แต่ด้วยเศรษฐกิจปัจจุบันนั้นการมีเงินก้อนติดตัวไว้ยามฉุกเฉินจะดีกว่า ทำให้หลายๆคนหันมามองรถมือสองกันมากขึ้น เพราะว่าไม่ต้องใช้เงินเยอะเหมือนออกรถป้ายแดงทำให้เพื่อนๆหลายคนยังสามารถเหลือเงินไปใช้กับส่วนอื่นได้อีก

รถยนต์มือสองราคามักจะถูกจากราคาป้ายแดง 40-60% แต่ความกังวลของผู้ที่สนใจรถมือสอง คือ กลัวการที่ดูรถมือสองไม่เป็น หรือกลัวโดนหลอก วันนี้ซมโปะประกันภัยจะมาบอกวิธีการดูรถมือสองด้วยตนเองให้ได้รถที่ดีๆสภาพสวยๆ มาลองอ่านกันเลย

ทริคเล็กๆการเลือกซื้อรถมือสอง ให้เพื่อนๆตั้งข้อสงสัยเยอะๆ และหากสงสัยตรงไหนให้สอบถามคนขายหรือถามเจ้าของรถได้เลย

1.ตรวจสอบเอกสารประจำรถ

ในรถยนต์หนึ่งคันจะมีเอกสารมากมาย และสิ่งที่เพื่อนๆควรตรวจเช็คเอกสารทุกอย่างให้พร้อมต่อการใช้งาน เช่น

  • สมุดจดทะเบียนรถ สิ่งที่เพื่อนๆควรตรวจเช็คจากสมุดจดทะเบียน คือ ลำดับการจดทะเบียนของรถยนต์ ว่ารถคันนี้ถูกเป็นเจ้าของมาแล้วกี่ลำดับ หากรถปียังน้อยมากๆ เช่น 2-4 ปี แต่มีลำดับจดทะเบียนไปแล้ว 4-5 ลำดับ อันนี้ให้เพื่อนๆตั้งข้อสงสัยได้เลยว่าต้องมีอะไรแปลกๆแน่นอน
  • เอกสารตรวจสภาพรถ และแผ่นป้ายภาษีรถยนต์ รถยนต์ทุกๆคันที่ใช้งานหรือไม่ใช้งาน ไม่ควรที่จะขาดการต่อภาษี ฉะนั้นรถที่เพื่อนๆจะซื้อ ป้ายภาษีของรถยนต์จะต้องยังไม่หมดอายุตอนซื้อด้วยนะ

ตรวจสอบประวัติการใช้งานของรถ

2.ตรวจสอบประวัติการใช้งานของรถ

  • รถยนต์มีส่วนประกอบจากหลายๆชิ้นส่วน และบางชิ้นส่วนนั้นมีระยะกำหนดเวลาที่ควรจะเปลี่ยนตามระยะของรถยนต์ โดยส่วนมากจะอิงจากเลขกิโลเมตร ฉะนั้นสิ่งที่เพื่อนๆควรจะตรวจสอบ คือ
    จำนวนเลขกิโลเมตรที่ใช้งานมาแล้ว เลขกิโลเมตรที่ใช้งานควรจะสัมพันธ์กับจำนวนปีของรถ จะมีข้อสังเกตเล็กน้อย เช่นรถคันนี้ อายุ 4 ปี แต่ใช้งานไปแล้วกว่า 150,000 กิโลเมตร ถือว่ารถคันนี้ใชงานมาค่อนข้างหนัก เพื่อนๆก็ต้องตัดสินใจดูว่าโอเคกับรถที่ใช้งานมาหนักได้ไหม
  • ประวัติการเข้าเช็คระยะ หรือ ระยะการถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อนๆรู้มั้ยว่าหากเพื่อนๆ สามารถตรวจสอบการเช็คระยะย้อนหลังได้ จากการนำหมายเลขตัวถัง สามารถเช็คกับศูนย์รถยนต์เบื้องต้นได้

ทริคการเช็คประวัติรถยนต์ ทางศูนย์บริการก็จะมีการรักษาข้อมูลของรถยนต์อยู่แล้ว ให้เพื่อนๆสังเกต ว่าเลขไมล์ปัจจุบัน และเลขไมล์ ครั้งสุดท้ายที่เข้ารับบริการนั้นเหมาะสมกันไหม เช่นในระบบรถยนต์เข้าเช็คระยะครั้งสุดท้ายตอน 200,000 กม. แต่เลขไมล์ปัจจุบันที่เพื่อนๆเห็นเป็น 120,000 กม. แสดงว่ารถยนต์คันนี้อาจจะถูกกรอไมล์มาก็ได้

ตรวจเช็คภายนอกของรถ

3.การตรวจสอบภายนอกของรถยนต์

ภายนอกของรถยนต์เป็นจุดที่เพื่อนๆ หลายคนมองข้างเพราะมองแบบกวาดก็เห็นเกือบทั้งหมดแล้ว แต่สิ่งที่เพื่อนๆควรจะสังเกตุและดูให้ดีคือสีรถยนต์ เพราะสีรถยนต์จะฟ้องถึงประวัติของรถยนต์ เช่น สีของท้ายรถยนต์ มีสีโดดออกมาจากจุดอื่นๆ ก็แสดงว่ารถคันนี้ทำสีด้านท้ายมา อาจจะเพราะถูกครูด หรืออาจจะโดนชนท้ายมาเลยก็ได้

  • สีของตัวถัง สีของตัวถังต้องตรงกับคู่มือจดทะเบียน เช่น รถยนต์ถูกจดทะเบียนมาเป็นสีดำ แต่รถที่อยู่ตรงหน้าเพื่อนๆเป็นสีขาว หากเป็นแบบนี้ให้ลองถามทางเจ้าของรถยนต์ก่อนว่าทำไมสีถึงไม่ตรงกับคู่มือจดทะเบียน
  • ความสมบูรณ์ของสีรถยนต์ ให้เพื่อนๆ นำรถไปเช็คกลางแดด หรือจุดที่มีแสงสว่างเพียงพอ สีของรถยนต์จากโรงงานเดิมๆ นั้นสีจะต้องเท่ากันทุกชิ้นส่วน หากรถยนต์ที่เพื่อนๆสนใจอยู่ มีส่วนที่สีไม่เท่ากัน ให้รีบสอบถามกับเจ้าของทันที
  • สีรถยนต์ต้องไม่ขุ่น หรือ ผุพอง สีของรถยนต์ที่ดีนั้นจะต้องเรียบเนียน เอามือลูบเร็วๆจะต้องเรียบสนิท
  • ยางและล้อของรถยนต์ ยางจะต้องมีอายุไม่มาก และไม่เก่าเกินไป เพราะหากยางมีอายุมาก ก็จะต้องเปลี่ยนยางเมื่อซื้อรถมา และล้อรถยนต์ จะต้องไม่คด ไม่บิ่น คือ ล้อจะต้องเป็นวงกลม ไม่งอ

ตรวจสอบเครื่องยนต์

4.ตรวจสอบสภาพของเครื่องยนต์

การตรวจสอบเครื่องยนต์เป็นจุดที่สำคัญที่สุดของการซื้อรถยนต์มือสอง เพราะหากรถมีการบำรุงรักษาที่ดี อาจจะทำให้เพื่อนๆ ประหยัดค่าบำรุงรักษาไปได้อีกด้วย

  • เครื่องยนต์ต้องไม่มีคราบน้ำมันเครื่องอยู่ และส่วนอื่นๆเช่น ระบบเกียร์ ชุดโช๊คอัพ หรือว่า เพลาขับ
  • ระบบระบายความร้อน หม้อน้ำ ถังพักน้ำ ต้องไม่รั่วซึม และพัดลมระบายความร้อนจะต้องทำงานได้ดี
  • เครื่องยนต์ต้องสตาร์ทติดภายในครั้งเดียว และไม่มีเสียงแปลกๆดังออกมา
  • มองดูชุดสายพานเครื่องยนต์ ต้องไม่เปื่อย และหย่อนลง
  • ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องโดยการดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมาเช็ค

5.การตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆอีกหนึ่งชิ้น เพราะในรถยนต์ยุคใหม่ๆจะใช้ระบบไฟฟ้าเข้ามาช่วยการขับขี่เยอะมาก และวิธีเช็คระบบไฟฟ้าเบื้องต้น

  • ไฟเตือนบนหน้าปัดรถยนต์จะต้องดับทุกดวงเมื่อสตาร์ทรถ หากสตาร์ทแล้วยังมีไฟติดอยู่รถยนต์อาจจะมีปัญหา
  • ระบบไฟส่องสว่างต้องใช้งานได้ดี เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก และไฟเลี้ยว ทุกดวงต้องใช้งานได้ตามที่เราเปิด หรือปิด
  • ระบบไฟฟ้าในรถยนต์ เช่น การปรับกระจกมองข้าง การเลื่อนกระจกขึ้น-ลง ต้องใช้งานได้ รวมไปถึง วิทิยุและเครื่องเสียงในรถยนต์เช่นกัน

การทดสอบขับขี่

6.การทดสอบขับขี่

สิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือการทดลองขับขี่รถยนต์ เพราะการขับขี่นั้นจะฟ้องอาการที่ไม่สมบูรณ์ของรถได้มากที่สุดสิ่งที่เพื่อนๆควรจะสังเกตดีๆระหว่างทดลองขับก็คือ

  • ระบบเบรกรถยนต์ เวลาเบรกจะต้องไม่มีเสียงดังตอนเตะเบรก หรือหากตอนเบรกแล้วรถสั่น หรือพวงมาลัยสั่นให้สังเกตุไว้ได้เลยว่ารถคันนี้อาจจะมีปัญหา
  • ทดลองหักเลี้ยวรถยนต์ พวงมาลัยหรือชุดล้อจะต้องไม่ส่งเสียงดังแปลกๆออกมา
  • ทดลองขับบนพื้นถนนขรุขระ เพื่อเช็คช่วงล่างของรถยนต์ ซึ่งไม่ควรมีเสียงกึกๆดังออกมา และช่วงล่างควรจะแน่น ไม่รู้สึกโคลงเคลง
  • ระบบเกียร์รถยนต์ รถยนต์ต้องเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างเรียบเนียน ไม่กระตุก และไม่มีเสียงแปลกๆ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการตรวจเช็คเบื้องต้นเท่านั้น เพื่อนๆควรจะศึกษาปัญหาเฉพาะของรถรุ่นนั้นๆเพื่อเตรียมรับมือกับการซ่อมแซมรถยนต์ที่เพื่อนๆสนใจที่จะซื้อ

หากสนใจประกันภัยกับรถที่คุณรัก เราขอแนะนำประกันรถยนต์ ซมโปะ ตามใจที่สามารถปรับความคุ้มครองได้ ตามต้องการ และจ่ายเบี้ยแบบรายเดือน ซื้อออนไลน์ง่ายๆเพียงไม่กี่ขั้นตอนก็ได้รับความคุ้มครองทันที

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ SOMPO ตามใจ

บทความอื่นๆจากซมโปะ