ประเทศไทยมีอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ปลอดภัย และเพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนและสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกภาคส่วน รัฐบาลจึงประกาศใช้พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2565 เป็นต้นไป โดยกฎหมายจราจรใหม่จะมีรายละเอียดสำคัญอะไรบ้าง เรามาสรุปให้รู้กันในบทความนี้
สรุป อัตราโทษ ค่าปรับตามกฎหมายจราจรใหม่
อุบัติเหตุจราจรสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าผู้ขับขี่จะปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัดเพียงใดก็ตาม โดยอุบัติเหตุที่ว่ามานี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้สามารถก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นได้ รวมถึงมีโทษและค่าปรับตามกฎหมายจราจรฉบับใหม่
โดยกฎหมายจราจรใหม่ มีการปรับอัตราโทษและเพิ่มบทลงโทษสำหรับความผิดหลายกรณี มีรายละเอียดดังนี้
- ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท
- ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟแดง มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท
- ฝ่าฝืนเครื่องหมายทางม้าลาย ไม่หยุดให้คนข้าม มีโทษปรับไม่เกิน 4,000 บาท
- ขับรถย้อนศร มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ไม่สวมหมวกนิรภัย มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตหรือร่างกายผู้อื่น มีโทษปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถตู้ รถกระบะ หากผู้ขับขี่และผู้โดยสารไม่รัดเข็มขัดนิรภัย ปรับสูงสุด 2,000 บาท
- ไม่ดื่มสุราหรือเสพยาเสพติดก่อนหรือระหว่างการขับขี่ จำคุกไม่เกิน 1 ปี มีโทษปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- แข่งรถบนถนนทางสาธารณะ จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 5000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังมีการปรับอัตราโทษอื่น ๆ อีก สามารถเข้าไปดูได้ที่ พระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565
รู้จัก เกณฑ์ตัดคะแนนความประพฤติผู้ขับขี่
กฎหมายจราจรใหม่ นอกจากมีการปรับอัตราโทษใหม่แล้ว ยังได้กำหนดระบบตัดคะแนนสำหรับผู้ขับขี่ที่กระทำความผิด เป็นมาตรการที่เสริมในการสร้างวินัยการขับขี่เพิ่มเติมจากการออกใบสั่ง สำหรับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตขับขี่ไม่ว่าจะกี่ชนิดก็ตาม ซึ่งหากทำผิดตามกฎจราจรในข้อหาที่ระบุไว้จะถูกตัดคะแนนตามที่กำหนด
สิ่งสำคัญที่ต้องรู้เกี่ยวกับเกณฑ์ตัดคะแนนความประพฤติ
- ผู้มีใบอนุญาตขับขี่ทุกคนมีคะแนนความประพฤติ 12 คะแนน
- ผู้ขับรถต้องมีใบขับขี่ และทุกครั้งที่ขับรถต้องพกใบขับขี่ไปด้วย
- เจ้าหน้าที่จะบันทึกการกระทำผิดตามใบสั่งด้วยระบบ PTM และจะถูกตัดคะแนนตามข้อหาที่กำหนด
- หากถูกตัดคะแนนจนเหลือ 0 คะแนน จะถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ (ทุกประเภท) เป็นเวลา 90 วัน
- หากฝ่าฝืนการขับรถในช่วงถูกพักใบขับขี่ มีโทษจำคุกนาน 3 เดือน และ / หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท
- หากถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 3 ภายในรอบ 3 ปี อาจถูกพักใช้ใบขับขี่มากกว่า 90 วัน
- ภายใน 1 ปี หากถูกตัดคะแนนจนถูกพักใช้ใบขับขี่เป็นครั้งที่ 4 คุณอาจถูกเพิกถอนใบขับขี่ทุกประเภท
เกณฑ์ในการตัดคะแนนพฤติกรรมผู้ขับขี่ทันทีเมื่อทำผิด
สำหรับกฎเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดคะแนนพฤติกรรมของผู้ขับขี่จะถูกตัดตามระดับความรุนแรงของความผิด โดยกำหนดให้ความผิดระดับที่ 1 ตัด 1 คะแนน ไปจนถึงระดับสูงสุดระดับ 4 ตัด 4 คะแนน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1. การตัด 1 คะแนน
- ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ
- ขับขี่รถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก
- ขับรถโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย
- ขับรถด้วยความเร็วเกินที่กำหนดในกฎกระทรวง หรือตามเครื่องหมายจราจรที่ได้ติดตั้งไว้ในทาง
- ขับรถบนทางเท้า โดยไม่มีเหตุอันสมควร
- ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
- ไม่หลบหรือจอด เพื่อให้รถฉุกเฉินได้ผ่านก่อน
- ขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว
- ขับรถไม่ติดป้ายทะเบียน หรือมีการเปลี่ยนแปลง / ปิดบังบางส่วนของป้ายทะเบียน
- ไม่ติดป้ายภาษี
2. การตัด 2 คะแนน
- ขับรถฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร หรือเครื่องหมายจราจรที่มีคำว่า “หยุด”
- ขับรถย้อนศร
- ขับรถระหว่างโดนพักใช้หรือเพิกถอนใบขับขี่
3. การตัด 3 คะแนน
- ขับรถในขณะหย่อนความสามารถ
- ขับผิดวิสัยคนขับรถธรรมดา โดยไม่ได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น
- ขับรถชนแล้วหนี ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่นหรือทรัพย์สิน รวมถึงไม่แสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
4. การตัด 4 คะแนน
- ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอื่น ๆ
- ขับรถในขณะเสพยาเสพติดให้โทษ
- แข่งรถในทางโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น หรือสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น
เกณฑ์ตัดคะแนนเมื่อไม่ชำระค่าปรับในใบสั่ง
- หากทำผิดกฎหมายจราจรใหม่ใน 20 ฐานความผิด ที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุใด ๆ หรือไม่ชำระค่าปรับจราจร จะถูกตัดคะแนนตั้งแต่ 1-4 คะแนน (ขึ้นอยู่กับความผิดที่กระทำ)
- หากได้รับใบสั่งและไม่ชำระค่าปรับโดยไม่มีเหตุอันสมควร จะถูกหัก 1 คะแนน
ช่องทางชำระค่าปรับ ใบสั่งใบขับขี่
- แอปพลิเคชัน Krungthai Next
- เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา
- ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ
- CenPay ของเครือ CENTRAL Group
- จุดบริการที่มีเครื่องหมาย PTM ที่แสดงถึงหน่วยบริการชำระเงินค่าปรับตามใบสั่งโครงการ PTM
- สอบถามเพิ่มเติมโทร. 1193
เกณฑ์การคืนคะแนนตามกฎหมายจราจรใหม่
ผู้ที่โดนตัดคะแนนสามารถได้รับคะแนนคืนได้ด้วยการเข้าอบรมกับกรมการขนส่งทางบก หรือรอให้ครบ 1 ปี ระบบจะคืนคะแนนให้โดยอัตโนมัติ โดยผู้ที่สามารถอบรมได้ก็ต่อเมื่อมีคะแนนเหลือน้อยกว่า 6 คะแนน ซึ่งการอบรมครั้งแรก ได้รับคืนทั้งหมด 12 คะแนน ครั้งที่ 2 ได้ไม่เกิน 6 คะแนน
แนะนำช่องทางการตรวจสอบคะแนนใบขับขี่
ช่องทางที่ 1 : เว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ได้ผ่านเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ จากนั้น เลือกเมนู “ตรวจสอบคะแนนความประพฤติ” และใส่เลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขใบขับขี่ จากนั้นกด “ตรวจสอบ”
ช่องทางที่ 2 : แอปพลิเคชัน KHUB DEE
ผู้ขับขี่สามารถตรวจสอบคะแนนใบขับขี่ได้ผ่านแอปพลิเคชัน KHUB DEE จาก App Store หรือ Google Play จากนั้น เข้าสู่ระบบด้วยเลขบัตรประจำตัวประชาชนหรือเลขใบขับขี่ จากนั้น เลือกเมนู “ใบขับขี่” และกด “ตรวจสอบคะแนน”
นอกจากกฎหมายจราจรใหม่ที่ออกมาเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนแล้ว อย่าลืมเลือกทำประกันภัยชั้น 1 กับ SOMPO ตามใจ ที่พร้อมช่วยดูแลคุณเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างครบถ้วน! รวมถึงสามารถโทรติดต่อเมื่อต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
บทความอื่นๆจากซมโปะ