บริการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการบำรุงรักษารถยนต์ คือการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เพื่อช่วยให้รถของคุณขับขี่ได้นิ่มนวลอย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ สำหรับมือใหม่อาจสงสัยว่าการตั้งศูนย์ถ่วงล้อคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลานำรถเข้าตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ในบทความนี้จะมาสรุปให้ได้รู้กัน

รู้หรือไม่ การตั้งศูนย์และถ่วงล้อ เป็นคนละส่วนแต่ต้องทำด้วยกัน

การตั้งศูนย์ คือ การตั้งระบบที่เชื่อมต่อรถยนต์เข้ากับล้อ ช่วยจัดทิศทางให้รถวิ่งทางตรงได้โดยไม่วิ่งออกนอกเลน และวิ่งทางเลี้ยวได้โดยไม่เสียศูนย์หรือเสียสมดุล

การถ่วงล้อ คือ การกระจายน้ำหนักของล้อและยางให้เท่ากัน ช่วยให้ล้อเกิดการหมุนที่สมดุล ลดการสั่นสะเทือนขณะขับขี่ ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวลและปลอดภัยยิ่งขึ้น

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ คือ การปรับองศาของล้อรถ ทั้งล้อหน้าและล้อหลังให้สัมพันธ์กันทั้งหมด ช่วยให้รถยนต์มีความสมดุลในขณะขับขี่ รถสามารถวิ่งตรงได้โดยไม่เอียงไปทางซ้ายหรือขวาและเคลื่อนผ่านพื้นผิวถนนได้นิ่มนวลมากขึ้น

ทำไมเราต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ ลดการเปลี่ยนยางบ่อย ๆ จากปัญหายางสึกก่อนเวลา

เมื่อไหร่ควรตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

สำหรับผู้ใช้รถทุกคน ควรนำรถเข้าตั้งศูนย์ถ่วงล้อเป็นประจำทุกปี หรือประมาณ 10,000 กิโลเมตร หรืออย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี แต่หากรถมีความผิดปกติขณะขับขี่เหล่านี้ ควรนำรถยนต์ไปตั้งศูนย์ล้อทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้ครบกำหนดเช็กรถประจำปี ดังนี้

  • รถยนต์เอียงไปข้างใดข้างหนึ่งในขณะขับขี่
  • รถยนต์เกิดอุบัติเหตุจนทำให้ล้อเสียหาย
  • รถยนต์ได้รับแรงกระแทกจากการตกหลุมบ่อ หรือชนสิ่งกีดขวาง
  • พวงมาลัยเอียงออกจากศูนย์กลางในขณะขับขี่
  • พวงมาลัยสั่นขณะขับรถเร็ว
  • ยางรถยนต์ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด
  • ดอกยางสึกก่อนเวลาอันควร
  • มีการเปลี่ยนหรือซ่อมช่วงล่างของรถ หรือระบบบังคับเลี้ยว

อย่างไรก็ตาม ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติขณะขับขี่ หากพบสัญญาณเตือนใด ๆ ควรรีบนำรถยนต์ไปตั้งศูนย์ถ่วงล้อทันที เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่

การตรวจสอบศูนย์ของยางรถ

 

3 จุดสำคัญที่เจ้าของรถควรรู้ก่อนรับบริการตั้งศูนย์ถ่วงล้อ

เมื่อนำรถเข้าศูนย์บริการ ช่างผู้ชำนาญในการตั้งศูนย์ถ่วงล้อจะเข้าตรวจสอบ 3 จุดสำคัญที่ส่งผลต่อการขับขี่ โดยแต่ละจุดมีรายละเอียดดังนี้

1. มุมแคมเบอร์ (Camber)

มุมแคมเบอร์ คือ มุมด้านในหรือด้านนอกของล้อ (ที่สัมผัสกับพื้นถนน) ที่เอียงขึ้นหรือลง เมื่อมองจากทางด้านหน้ารถในลักษณะเส้นดิ่ง โดยปกติจะทำแนวตั้งฉากกับพื้น ไม่มีเอนออกหรือหุบเข้า มีหน้าที่​รองรับหรือต้านการเอียงของรถในขณะเข้าโค้ง ช่วยให้หน้ายางแนบสนิทกับพื้นถนนได้เต็มหน้า ช่วยในการเกาะถนนและการเบรกที่ดี

ในกรณี มุมแคมเบอร์เป็น บวก (+) หรือลบ (-) มากเกินไป แปลได้ว่า มุมแคมเบอร์มีความผิดปกติ มีศูนย์ล้อที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้รถทรงตัวยาก และยางด้านในและด้านนอกเสื่อมเร็ว จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงศูนย์ล้อ

2. มุมโท (Toe)

มุมโท คือ มุมที่ยางรถยนต์เอนเข้าหากันหรือออกห่างกัน เมื่อมองจากด้านบนของรถ (คล้ายกับการยืนขึ้นและมองไปที่เท้าของตัวเอง) หากพบว่า ล้อรถเอียงเข้าหากันมากเกินไป เรียกว่า มุมโทอิน (Toe-in) หรือเอียงออกห่างกันมากเกินไปเรียกว่า มุมโทเอาต์ (Toe-out) จะส่งผลต่อการควบคุมรถ หรือรัศมี​การเลี้ยว ทำให้เข้าโค้งลำบาก จำเป็นต้องตั้งศูนย์ล้อใหม่

3. มุมแคสเตอร์ (Caster)

มุมแคสเตอร์ คือ การวางตำแหน่งล้อหรือมุมแกนหมุนเลี้ยว​ เมื่อมองจากด้านหน้าหรือด้านหลังรถ ใช้สำหรับควบคุมเสถียรภาพของล้อในการเลี้ยวโค้ง ทำให้รถวิ่งได้ตรงทิศทางและพวงมาลัยคืนกลับในแนวตรงได้เอง ถ้าหากมุมแคสเตอร์ไม่อยู่ในค่ามาตรฐาน จะส่งผลให้รถทรงตัวได้ยาก บังคับเลี้ยวลำบาก

ในกรณี แกนหมุนเลี้ยวเอียงไปทางด้านหน้า​ มุมแคสเตอร์บวก (+) แกนพวงมาลัยเอียงไปทางคนขับทำให้พวงมาลัยหนักขึ้น ผู้ขับต้องออกแรงหมุนพวงมาลัยมากขึ้น หรือแกนหมุนเลี้ยวเอียงไปทางข้างหลังรถ มุมแคสเตอร์ลบ (-) แกนพวงมาลัยจะเอนเอียงไปทางหน้ารถ พวงมาลัยจะเบา และส่งผลทำให้การขับขี่ไม่มั่นคง

การตั้งศูนย์ถ่วงล้อ เป็นสิ่งที่ผู้ขับรถไม่ควรละเลย ซึ่งจะช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้ นอกจากนี้ SOMPO ตามใจ เรามีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนน เพียงเป็นลูกค้าที่ใช้ประกันรถยนต์ของเรา ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดและเช็กราคาประกันรถยนต์ชั้น 3 รวมถึงแผนอื่น ๆ ได้แล้ว และสามารถซื้อผ่านเว็บไซต์ SOMPO ตามใจ ได้อย่างสะดวกสบายทุกที่ ทุกเวลา ดูเลย!

เช็คเบี้ยประกันรถยนต์ SOMPO ตามใจ

ข้อมูลอ้างอิง

  1. คาสเตอร์ แคมเบอร์ เรื่องของมุมล้อที่คุณไม่รู้?. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.thairath.co.th/

บทความอื่นๆจากซมโปะ