การซื้อประกันรถยนต์ไม่ใช่เพียงแค่การเตรียมตัวเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมพร้อมต่อความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับรถยนต์ของเราได้อีก โดยทั่วไปกรมธรรม์ของประกันรถยนต์ จะมีผลคุ้มครองทั้งผู้ขับขี่ และรถยนต์ของเรา รวมไปถึงคู่กรณีด้วย โดยบางรายละเอียดเราก็ไม่รู้ว่ากรมธรรม์ประกันรถยนต์ของเรามีความคุ้มครองอะไรบ้าง วันนี้ซมโปะจะมาเผยความลับก่อนซื้อประกันรถยนต์ที่เพื่อนๆ อาจไม่เคยรู้ เพื่อเราจะได้ประโยชน์สูงสุดจาก กรมธรรม์ที่เราจ่ายเบี้ยมา
1. รถเสียหายหนักสามารถคืนทุนประกันได้
เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว ตัวรถยนต์เสียหายหนักเกินกว่าจะซ่อมแซมให้กลับมาสภาพเดิมได้ เช่น พลิกคว่ำ, เกิดอุบัติเหตุจนเครื่องยนต์หรือเกียร์หลุดออกมา, หรือไฟไหม้ บริษัทประกันภัยจะต้องรับผิดชอบในการชดเชยค่าเสียหายของรถยนต์ และจะต้องประเมินและทำการจ่ายตามทุนประกันที่ได้ทำกับบริษัทประกันภัยไว้
2. จ่ายเบี้ยประกันแล้ว แม้ยังไม่ได้รับกรมธรรม์ ก็ได้รับความคุ้มครองตามปกติ
เมื่อเพื่อนๆ ชำระเบี้ยประกันรถยนต์แล้ว กรมธรรม์ประกันรถยนต์ จะให้ความคุ้มครองทันทีนับจากวันที่เพื่อนๆ เลือก แม้ว่าเราจะยังไม่ได้รับกรมธรรม์จากบริษัทประกัน อย่างไรก็ตามเราแนะนำให้เพื่อนๆ เก็บใบเสร็จไว้ตลอดเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการชำระเงิน ก่อนที่จะได้รับกรมธรรม์
3. ชนแล้วหนี จากโทษเบากลายเป็นโทษหนักทันที!
เมื่อเกิดอุบัติเหตุ สิ่งที่ควรทำคือหยุดรถทันทีแล้วลงไปช่วยเหลือ โดยเฉพาะถ้ามีผู้บาดเจ็บ ควรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมติดต่อโรงพยาบาล และถ่ายรูปหรือวิดีโอของสถานที่เกิดเหตุและผู้บาดเจ็บเป็นหลักฐานไว้ด้วย เพราะหลักฐานนั้นจะช่วยแสดงถึงความรับผิดชอบของเพื่อนๆ และอาจเป็นประโยชน์ในภายหลังหากจำเป็นต้องขึ้นให้การในศาล สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาลของคู่กรณี ค่าชดเชยทรัพย์สินของคู่กรณี รวมถึงค่าประกันตัวผู้ขับขี่ บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้ดำเนินการชดใช้ค่าเสียหายตามทุนประกันที่เพื่อนๆ ได้เลือกไว้
4. หากเกิดเหตุแล้วไม่มีคู่กรณีต้องจ่ายค่า Excess
ค่า Excess นั้นจะถูกระบุไว้ในเงื่อนไขกรมธรรม์อยู่แล้ว โดยค่า Excess จะถูกคิดเมื่อเพื่อนๆ ขับรถไปชนกับวัตถุที่ไม่ใช่ยานพาหนะทางบก เช่น ขับรถเฉี่ยวประตูบ้าน ถอยรถชนเสาไฟฟ้า ก็จะถูกเรียกเก็บค่า Excess ด้วย และหากเพื่อนๆ อยากทราบว่าค่า Excess กับ Deductible คืออะไร สามารถอ่านรายละเอียดได้ที่ Deductible กับ Excess ต่างกันอย่างไร?
5. เพื่อนๆ สามารถหาอะไหล่แท้มาเปลี่ยนได้
ในกรณีที่เพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าอู่ซ่อมใช้ชิ้นส่วนแท้จากศูนย์รถยนต์หรือไม่ เพื่อนๆ สามารถจัดหาชิ้นส่วนเหล่านี้เองได้เพื่อความมั่นใจ โดยค่าใช้จ่ายอะไหล่แท้นั้นเพื่อนๆ สามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันได้ตามราคาประเมินจากอู่
6. ไม่แน่ใจว่าเป็นฝ่ายถูกหรือผิด อย่าพึ่งเซ็นใบเคลม
ในกรณีเกิดอุบัติเหตุแล้วเพื่อนๆ ไม่แน่ใจว่าเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด เพื่อนๆ ต้องใจเย็นๆ แล้วรอจนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันของฝ่ายเรามาถึงก่อน เพราะเป็นหน้าที่ของประกันภัยที่ต้องมาตรวจสอบ และเจรจาก่อนที่จะให้เพื่อนๆ เซ็นใบเคลม
7. เมาแล้วขับ นอกจากถูกปรับแล้ว ประกันก็ไม่รับผิดชอบในกรณีเกิดอุบัติเหตุ
กรมธรรม์ประกันรถยนต์ หมวดความคุ้มครองการรับผิดต่อบุคคลภายนอก และหมวดความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ เกี่ยวกับการยกเว้นทั่วไป ระบุไว้ว่า “หากบุคคลที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเส้นเลือดตั้งแต่ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไปแล้วมาขับขี่รถยนต์คันที่เอาประกันภัยจากนั้นได้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลภายนอกพร้อมกับความเสียหายที่ได้เกิดกับบุคคลภายนอกนั้นก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง” ซึ่งหมายความว่า หากเพื่อนๆ ดื่มแอลกอฮอล์เกินปริมาณที่กฏหมายกำหนดแล้วมาขับรถยนต์แล้วเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์สามารถปฏิเสธความคุ้มครองได้ทันที ทำให้เพื่อนๆ จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดด้วยตนเอง
การที่เราจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์ ปีละจำนวนไม่น้อย เราก็ควรจำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเราสามารถใช้สิทธิ์อะไรได้บ้าง เพื่อให้เพื่อนๆ ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการซื้อประกันรถยนต์ หากเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาประกันรถยนต์ที่จริงใจ ลองมาเช็คเบี้ยประกัน กับประกันรถยนต์ SOMPO ตามใจ เพราะเรามีประกันรถยนต์ แบบรายวัน และแบบ Subscription จ่ายแบบรายเดือน ไม่มีดอกเบี้ย พร้อมเลือกปรับความคุ้มครองได้ตามใจ หากเพื่อนๆ อยากรู้จักประกันรถยนต์ SOMPO ตามใจให้มากขึ้น ลองอ่านประกันรถยนต์ SOMPO ตามใจคืออะไร
บทความอื่นๆจากซมโปะ
